เขาน่ารัก!

มุมมองของเชน

“คุณโกหก” เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่ทำให้ผมรู้เลยว่าเขาอยากให้มันเป็นเรื่องโกหก

ผมไม่พูดอะไรสักคำ เอื้อมมือไปที่กระเป๋าเดินทางแล้วหยิบสัญญาที่เขาเซ็นไว้เมื่อห้าวันก่อนออกมา ยื่นให้เขาไป

เขารีบฉวยมันไปจากมือผมแล้วพลิกอ่านผ่านๆ ไปทีละหน้า

ผมจ้องมองใบหน้าที่แดงก่ำของเขาแล้วรอคอยปฏิกิริยา

รอยยิ้มกว้างผุดขึ้นบนริมฝีปากผมทันทีที่เห็นสีหน้าของเขาแปรเปลี่ยนเป็นความสิ้นหวัง

แล้วเขาก็ค่อยๆ เหลือบมองมาที่ผม พอเห็นสีหน้าของผม ประกายความโกรธก็วาวโรจน์ขึ้นในดวงตาของเขา

“คุณคิดว่านี่มันตลกมากรึไง!” เขาตวาดใส่ผม “เพราะผมไม่ตลกด้วยเลย! เพราะผมจะอึดอัดมากที่ต้องทำงานกับคุณ!”

ผมเองก็จะอึดอัดเหมือนกัน เรายกเลิกสัญญากันสองคนเลยก็ได้ถ้าผมอยากทำ... แต่ผมตัดสินใจแล้วว่าจะไม่ทำ

ใบหน้าตอนโกรธที่น่ารักของเขามันช่างน่าแกล้งชะมัด โดยเฉพาะตอนที่เขาลนลาน... เหมือนตอนนี้เลย

ที่ออฟฟิศ ทุกคนกลัวผมจนหัวหด แต่เขาไม่ บางทีอาจเป็นเพราะเราเคยมีอะไรกันก่อนที่เขาจะมาเป็นลูกจ้างของผม

ผมน่าจะมีใครสักคนน่ารักๆ ไว้คอยแกล้งเล่นเวลาเบื่อ และผมว่าเขาคือคนที่เหมาะที่สุดแล้ว

ตอนที่ผมเห็นเขายืนอยู่ในห้องนั่งเล่นที่บ้าน ผมเองก็แปลกใจเหมือนกัน ผมสงสัยว่าเขามาทำบ้าอะไรที่นี่ แล้วถึงได้นึกขึ้นได้ว่าเขาคือคนที่แม็กกี้ส่งมาทำงานแทนนั่นเอง

แต่การเติบโตมาทำให้ผมต้องเรียนรู้ที่จะเก็บซ่อนอารมณ์และปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ใหม่ๆ

“โอเค เอาอย่างนี้” เขาแย้งขึ้นมาอย่างหมดท่า “คุณไม่อยากได้ผมเป็นผู้ช่วยใช่ไหม? ผมก็เหมือนกัน ผมไม่อยากทำงานให้คุณ เราคิดตรงกันนี่นา งั้นทำไมเราไม่ยกเลิกสัญญาทั้งคู่ไปเลยล่ะครับ?”

“ใครบอกล่ะว่าผมไม่อยากได้คุณมาเป็นผู้ช่วย?”

“ห๊ะ?” เขาอ้าปากค้างมองหน้าผม

“แล้วอีกอย่างนะ” ผมพูดต่ออย่างนึกสนุกกับใบหน้าที่กำลังเหวอของเขา “ที่ออฟฟิศตอนนี้เอกสารท่วมหัวไปหมด ผมไม่มีเวลามานั่งหาพนักงานใหม่หรอก”

ความสิ้นหวังบนใบหน้าของเขาฉายชัดยิ่งขึ้น

“แต่มันต้องมีทางออกสิครับ!” เขาพูดอย่างจริงจัง ดวงตาเต็มไปด้วยความอ้อนวอน

เขาเกลียดผมขนาดนั้นเลยเหรอ

นี่ไม่ใช่คนที่เคยอ้อนวอนให้ผมเอามันให้ตายคาเตียงหรอกเหรอ? แล้วทำไมจู่ๆ ถึงเปลี่ยนไปขนาดนี้

“เราสายแล้วนะ” ผมพูดด้วยน้ำเสียงเจ้านายอย่างหนักแน่น “ขับรถได้แล้ว เรื่องนี้จบ”

“แต่ว่า...”

“ผมบอกให้ขับรถ!” ผมตะคอกใส่จนเขาสะดุ้ง

ขนาดตอนกลัวยังน่ารักเลย

แล้วเขาก็ขมวดคิ้ว กัดริมฝีปาก ผมสาบานได้เลยว่าเขาอยากจะร้องไห้ และความเกลียดชังในดวงตาของเขาก็ยิ่งทำให้เขาน่ารักขึ้นไปอีก

เดี๋ยวนะ... ทำไมผมถึงคิดว่าเขาน่ารัก

เขาหันกลับไปสตาร์ทรถ แล้วขับตรงไปยังออฟฟิศ

การเดินทางนั้นทั้งรวดเร็วและน่าอึดอัด ผมเดาว่าการที่ต้องอยู่กับผมที่นี่มันคงทำให้เขาอึดอัดจนแทบหายใจไม่ออก และเขาคงไม่ต้องการอะไรมากไปกว่าการอยู่ให้ห่างจากผมมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ตลกดี

เขาชะลอรถเมื่อมาถึงบริษัทซึ่งมีป้ายเขียนว่า เวลส์ เอ็นเตอร์ไพรส์ จากนั้นก็ขับเข้าไปในลานจอดรถแล้วจอด

เขานั่งนิ่งรอให้ผมลงจากรถ

แต่ผมไม่ลง

เขารีบหันกลับมาแล้วใช้สายตาถาม “ก็... คุณไม่ลงไปเหรอครับ?”

“ไม่!” ผมตอบเรียบๆ “หน้าที่ของคุณรวมถึงการเปิดประตูรถให้ผมด้วย เวลาที่ผมจะขึ้นหรือลงจากรถ”

“นี่คุณล้อผมเล่นรึเปล่า!” เขาแผดเสียงลั่น ตาแทบถลน “พระเจ้าช่วย! นี่มันบ้าบอที่สุด!”

“เปิดประตู” ผมพูดเสียงเข้ม แต่ลึกๆ แล้วอยากจะหัวเราะออกมา “เดี๋ยวนี้”

เขาพึมพำอะไรบางอย่างแล้วลงจากรถ จากนั้นก็มาเปิดประตูรถให้ สีหน้าบึ้งตึง

“ไปเอากระเป๋ามาด้วย” ผมสั่งขณะก้าวลงจากรถแล้วเดินตรงไปยังลิฟต์

ถ้าสายตาฆ่าคนได้ ป่านนี้ผมคงกลายเป็นศพไปแล้ว สายตาของเขาจ้องมาอย่างกับจะฉีกผมเป็นชิ้นๆ

ผมไปถึงลิฟต์แล้วกดปุ่มเรียก ไม่กี่วินาทีต่อมา เขาก็ตามมาสมทบด้วยใบหน้าบึ้งตึงเหมือนเดิม

ลิฟต์มาถึง เราขึ้นไปชั้นบนสุด พอถึงชั้นเป้าหมาย ประตูลิฟต์ก็เปิดออก

พนักงานของผมรอผมอยู่แล้ว มันเป็นกิจวัตรยามเช้าของพวกเขา และใครก็ตามที่พลาดก็ถือว่าเตรียมตัวโดนไล่ออกได้เลย

“สวัสดีตอนเช้าครับคุณเวลส์” พวกเขาทุกคนกล่าวขึ้นพร้อมเพรียงกัน

ผมแอบเหลือบมองเขา และก็เป็นไปตามคาด เขากำลังทึ่งกับภาพทั้งหมด

“ทุกคน อย่างที่เรารู้กันว่าแม็กกี้ประสบอุบัติเหตุร้ายแรง” ผมกล่าว “...และนี่คือเฮนรี่ โจนส์” ผมผายมือไปทางเฮนรี่ “เขาจะมาเป็นผู้ช่วยชั่วคราวของผมจนกว่าแม็กกี้จะหายดี และผมหวังว่าพวกคุณทุกคนจะปฏิบัติต่อเขาด้วยความเคารพอย่างที่เขาควรจะได้รับ ชัดเจนนะ?”

“ครับ/ค่ะ ท่าน!” ทุกคนขานรับ

“ทีนี้ก็กลับไปทำงานได้” ผมสั่ง แล้วทุกคนก็เริ่มเดินกลับไปยังโต๊ะทำงานของตัวเอง ผมหันไปหาเฮนรี่แล้วบอกให้เขาตามมา

เขาเดินตามหลังผมมา สายตากวาดมองไปทั่วทั้งตึก

ห้องทำงานของเลขาฯ เป็นทางผ่านเข้าไปยังห้องของผม

“นี่จะเป็นห้องทำงานของคุณ และนี่คือเอกสารที่คุณต้องตรวจทานก่อนจะส่งให้ผม” ผมพูดพลางชี้ไปที่กองกระดาษบนโต๊ะของเขา “และต้องแน่ใจว่าคุณตรวจมันทั้งหมดให้เสร็จภายในวันนี้”

ปากของเขาอ้ากว้างด้วยความตกใจ “ทั้งหมดนี่เลยเหรอครับ”

ผมส่งยิ้มยียวนให้เขา “ใช่ ทั้งหมดนั่นแหละ”

บทก่อนหน้า
บทถัดไป